“ระบบเบรก” เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้รถยนต์สามารถชะลอความเร็วลง และทำให้รถหยุดได้ หากอุปกรณ์ในระบบเบรกมีปัญหา จึงอาจทำให้เกิดความเสียหายทั้งต่อรถยนต์และผู้ขับขี่ ซึ่งชิ้นส่วนหนึ่งที่สำคัญต่อการเบรก คือ “ผ้าเบรก” หากรถยนต์มีอาการผ้าเบรกหมด อาจทำให้รถเบรกไม่อยู่ และทำให้อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ วันนี้เราจึงพามาทำความรู้จักกับอาการต่าง ๆ ที่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าผ้าเบรกกำลังจะหมด พร้อมแชร์วิธีป้องกันไม่ให้ผ้าเบรกหมดเร็ว เพื่อยืดอายุการใช้งาน และเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ด้วย
อาการผ้าเบรกหมดคืออะไร?
“ผ้าเบรก” เป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญที่มีผลต่อประสิทธิภาพของระบบเบรก หากใช้งานรถยนต์ไประยะหนึ่ง ผ้าเบรกอาจบางลง จนเกิดอาการผ้าเบรกหมดได้ ซึ่งจะทำให้ชิ้นส่วนอื่น ๆ ในระบบเบรก เช่น จานเบรก หรือเบรกคาลิปเปอร์ เกิดการเสียดสีกันโดยตรง และทำให้อะไหล่เกิดความเสียหายตามไปด้วย
4 สัญญาณเตือนเมื่อผ้าเบรกหมด มีอะไรบ้าง?
อาการผ้าเบรกหมด สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้ที่ขับขี่รถยนต์ทุกคน สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือผู้ใช้รถต้องหมั่นตรวจเช็กสภาพรถอย่างสม่ำเสมอ และสังเกตอาการผิดปกติทั้ง 4 สัญญาณ ที่ห้ามมองข้ามเด็ดขาด เพราะถ้ารถยนต์ของคุณผ้าเบรกหมด อาการเหล่านี้จะช่วยเตือนให้รู้ว่า ควรรีบเปลี่ยนผ้าเบรก ไม่เช่นนั้นอาจส่งผลทำให้รถเบรกไม่อยู่ และเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้
เบรกมีเสียงดังผิดปกติขณะเบรก
หากรถของคุณมีเสียงดังขณะเหยียบเบรก คล้ายเสียงโลหะกระทบกัน หรือเสียดสีจนมีเสียงเอี๊ยด นั่นคือสัญญาณว่าผ้าเบรกใกล้หมด ควรรีบนำรถไปเปลี่ยนผ้าเบรกโดยด่วน เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
เบรกไม่ค่อยอยู่ ต้องเหยียบแรงขึ้น
ถ้ารถของคุณผ้าเบรกหมด อาการเบรกไม่อยู่ หรือเบรกแล้วรถยังไหลไปข้างหน้าจะเกิดขึ้นทันที ซึ่งอาการเหล่านี้ล้วนแต่เป็นอาการผ้าเบรกหมดทั้งสิ้น ส่งผลให้ผู้ขับขี่ไม่สามารถหยุดรถได้ตามที่ต้องการ จนต้องเหยียบเบรกแรงขึ้นเพื่อให้รถชะลอตัวลง สิ่งนี้เป็นสัญญาณอันตรายที่ไม่ควรประมาท เพราะนั่นหมายถึงอุปกรณ์ผ้าเบรกของคุณมีความบางเกินไป มีโอกาสที่ชิ้นส่วนซึ่งทำหน้าที่ในการเบรกจะเสียดสีกันโดยตรง ควรนำรถไปตรวจสอบที่ศูนย์เพื่อเปลี่ยนผ้าเบรก ก่อนที่อุปกรณ์อื่น ๆ ในระบบเบรกจะเกิดความเสียหายตามไปด้วย
มีไฟแจ้งเตือนที่หน้าปัด
สำหรับรถยนต์บางรุ่น เมื่อผ้าเบรกหมด หรืออุปกรณ์เกิดการสึกหรอจนทำให้ผ้าเบรกมีความบางเกินไป หน้าปัดบริเวณแผงหน้ารถจะมีไฟสีแดงแจ้งเตือนขึ้นมา หากพบสัญญาณนี้ควรเปลี่ยนผ้าเบรกโดยด่วน เพื่อทำให้ระบบเบรกใช้งานได้ตามปกติ
รู้สึกถึงอาการสั่นขณะเบรก
เมื่อเหยียบเบรกแล้วรู้สึกถึงอาการสั่นบริเวณเท้าที่ใช้เหยียบเบรก หรือมีอาการสั่นรุนแรงขึ้นมาถึงพวงมาลัย นับเป็นอีกหนึ่งอาการผ้าเบรกหมด อาจหมายความว่าระบบเบรกกำลังมีปัญหา ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น จานเบรกได้รับความเสียหายจากการใช้งานหนัก และอีกหนึ่งสาเหตุคือผ้าเบรกหมด หากไม่แน่ใจว่าเกิดจากปัจจัยใด ควรนำรถไปตรวจเช็ก เพื่อรับฟังคำแนะนำที่ถูกต้องจากช่างผู้เชี่ยวชาญ
อาการผ้าเบรกหมดเร็ว มีสาเหตุจากอะไร?

การขับขี่ที่รุนแรง
หากผู้ใช้รถขับขี่อย่างรวดเร็วเป็นประจำ และเบรกอย่างกะทันหันบ่อย ๆ อาจส่งผลให้ผ้าเบรกหมดเร็วขึ้นได้ เพราะการเบรกอย่างกระชั้นชิดทำให้เกิดแรงเสียดทานมาก อะไหล่ที่อยู่ในระบบเบรกจึงเสียดสีกันอย่างรุนแรง ส่งผลให้ผ้าเบรกมีอายุการใช้งานที่สั้นลงด้วย
การบรรทุกของที่มีน้ำหนักมากเกินไป
หลายคนอาจไม่รู้ว่าน้ำหนักของรถส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเบรกด้วย หากใช้รถในการบรรทุกสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก จะทำให้การเบรกช้าลงตามไปด้วย เพราะต้องใช้แรงในการเบรกมากขึ้น เป็นเหตุให้ระบบเบรกต้องทำงานหนัก และทำให้ชิ้นส่วนในระบบเบรกสึกหรอได้ง่าย ซึ่งรวมถึงผ้าเบรกที่ถูกใช้งานอย่างหนัก ทำให้บางลงอย่างรวดเร็วด้วย
คุณภาพของผ้าเบรก
สิ่งที่สำคัญมากอีกอย่างหนึ่ง คือ การเลือกใช้ผ้าเบรกที่เหมาะกับการใช้งานรถยนต์ รวมถึงเลือกใช้ผ้าเบรกที่มีคุณภาพดี เพื่อให้การเบรกมีประสิทธิภาพที่ดีตามไปด้วย ในท้องตลาดมีผ้าเบรกหลายชนิด เช่น แบบออร์แกนิก แบบกึ่งโลหะ และแบบเซรามิกที่เหมาะกับผู้ที่ขับขี่ด้วยความเร็ว ถึงแม้ว่าผ้าเบรกชนิดนี้จะเหมาะกับผู้ที่ขับรถเร็ว แต่ก็ไม่ควรขับขี่ด้วยความประมาท เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ อย่างไรก็ตาม การเลือกประเภทผ้าเบรกที่เหมาะสมกับการใช้งาน รวมถึงใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันไม่ให้ผ้าเบรกหมดเร็วแล้ว ยังทำให้การขับขี่ปลอดภัยมากขึ้นด้วย
ปัญหาที่เกิดจากระบบเบรก
อีกปัจจัยที่ส่งผลให้ผ้าเบรกเสื่อมสภาพเร็ว คือ “ระบบเบรกมีปัญหา” ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจานเบรกคด หรือเกิดความร้อนสูง จนทำให้ผ้าเบรกสึกหรอ และมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าปกติ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผ้าเบรกหมดเร็ว รวมถึงปัญหาจากระบบเบรกหลวม ซึ่งทำให้น้ำมันเบรกรั่วไหลออกมา ก็อาจทำให้ผ้าเบรกได้รับความเสียหาย และลุกลามไปจนทำให้เกิดอาการเบรกแตกได้
วิธีป้องกันไม่ให้ผ้าเบรกหมดเร็ว มีอะไรบ้าง?
ตรวจสอบผ้าเบรกเป็นประจำ
การตรวจเช็กผ้าเบรกเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย เพราะหากประมาทอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ ผู้ใช้รถควรเช็กสภาพผ้าเบรกทุก 3 เดือน หรือคิดเป็นระยะทางประมาณ 8,000 – 10,000 กิโลเมตร เพื่อให้แน่ใจว่าผ้าเบรกที่กำลังใช้งานอยู่นั้น ยังคงมีคุณภาพที่ดีและใช้งานได้ตามปกติ
ขับขี่อย่างระมัดระวัง
การขับขี่อย่างปลอดภัยล้วนดีต่อผู้ใช้รถและถนนทุกคน รวมถึงช่วยถนอมผ้าเบรกให้มีอายุการใช้งานนานขึ้นด้วย ผู้ขับขี่จึงไม่ควรขับรถด้วยความเร็ว และไม่ควรเหยียบเบรกอย่างกะทันหัน เพราะอาจทำให้ระบบเบรกสึกหรอได้ง่าย ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผ้าเบรกหมดเร็วด้วย
เลือกใช้ผ้าเบรกคุณภาพดี
การเลือกใช้ผ้าเบรกที่มีคุณภาพดีจะช่วยให้การเบรกมีประสิทธิภาพที่ดีตามไปด้วย ดังนั้น ผู้ใช้รถจึงควรลงทุนกับอุปกรณ์ในระบบเบรกทุกส่วน โดยเฉพาะผ้าเบรก เพราะหากใช้ผ้าเบรกที่ไม่มีคุณภาพ ก็จะทำให้ผ้าเบรกหมดเร็ว และอาจสร้างความเสียหายกับชิ้นส่วนอื่น ๆ ในระบบเบรกอีกด้วย
บำรุงรักษารถยนต์เป็นประจำ
นอกจากการตรวจเช็กสภาพรถแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ควรทำเป็นประจำ คือ การบำรุงรักษารถยนต์ ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงหมั่นเติมน้ำมันเบรกอย่างสม่ำเสมอ และทำความสะอาดผ้าเบรกเป็นประจำ เพื่อให้การทำงานของระบบเบรกเป็นไปอย่างถูกต้องและปลอดภัย
แม้ระบบเบรกจะดูเป็นวงจรเล็ก ๆ สำหรับรถยนต์ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นระบบที่สำคัญมาก และมีผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่มากที่สุดระบบหนึ่ง ผู้ขับขี่จึงไม่ควรมองข้ามอุปกรณ์สำคัญอย่าง “ผ้าเบรก” เพราะหากผ้าเบรกได้รับความเสียหาย ก็อาจส่งผลให้รถยนต์ของคุณมีปัญหา ไม่สามารถหยุดรถได้ตามความต้องการ และอาจนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้
สำหรับใครที่กังวลกับปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับการดูแลรถยนต์ สามารถนำรถมาตรวจเช็กสภาพได้ที่ ศูนย์นิสสัน Nissan SMT เรามีทีมช่างผู้เชี่ยวชาญที่สามารถตอบทุกคำถาม พร้อมให้คำแนะนำได้อย่างครบวงจร เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ของคุณทุกเส้นทาง