ศูนย์บริการเคลือบสี เคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก

เคลือบสีรถ คืออะไร

การเคลือบสีรถคือกระบวนการปกป้องพื้นผิวรถด้วยสารเคลือบพิเศษ เช่น เซรามิก ที่ช่วยเพิ่มความเงางาม ป้องกันรอยขีดข่วน คราบสกปรก และรังสี UV โดยเราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ระดับโลกอย่าง Opti-Coat และ NXTZEN เพื่อให้รถของคุณเงางามเหมือนใหม่และดูแลรักษาได้ง่ายยิ่งขึ้น

ทำไมต้องเคลือบสีรถกับเรา

เราให้บริการเคลือบเซรามิกด้วยผลิตภัณฑ์ระดับโลกอย่าง Opti-Coat และ NXTZEN โดยทีมช่างมืออาชีพภายใต้มาตรฐานศูนย์บริการครบวงจร มั่นใจได้ทั้งคุณภาพและความคุ้มค่าในราคาที่เข้าถึงได้

ครบจบในที่เดียว ด้วยบริการมาตรฐานระดับศูนย์

เป็นศูนย์บริการมาตรฐานที่มีบริการครบวงจรตั้งแต่บริการเช็คระยะ ซ่อมรถ ซ่อมสีและตัวถัง และ car detailing ทำให้มั่นใจในคุณภาพของการให้บริการได้

ผลิตภัณฑ์ระดับโลก ในราคาที่จับต้องได้

ใช้ผลิตภัณ์เคลือบเซรามิกของ Opti – Coat จากอเมริกาและ NXTZEN จาก New Zealand ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพระกับโลกในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย

สีเคลือบรถของเรา

 

OPTIMUM GLOSS COAT

สัมผัสความทนทาน ไฮบริดเซรามิก!

เคลือบแก้วในรูปแบบไฮบริดเซรามิก และเพิ่ม Advance Polymer System ที่ให้คุณสมบัติในการเคลือบชั้นผิวรถให้เงาใส Gloss สูง และยังให้การต้านทานต่อรอยขีดข่วนได้ดีขึ้น ทนต่อการสึกกร่อนได้ดีกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไปตามท้องตลาด และมั่นใจด้านการปกป้องจากรังสี UV ที่จะทำให้รถคุณซีดจาง

 

Opti-Coat Pro

ที่สุดแห่งความเงางามและการปกป้องที่เหนือกว่า!

ผลิตภัณฑ์เคลือบเซรามิก เป็นรุ่นพัฒนาจากผลิตภัณฑ์ Opti-Coat Pro ที่เพิ่มขึ้น 2 ขั้นตอน ขั้นตอนแรก คือ Opti-Coat Pro เป็นการเคลือบเซรามิกที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน ลดและป้องกันการกัดกร่อนจากสารเคมี ช่วยลดการซีดจางของผิวสีรถจากรังสี UV และเพิ่มขั้นตอนที่ 2 ด้วย Opti-Coat Pro Plus ชั้นเคลือบที่ 2 ที่จะช่วยเพิ่มความเงางาม เงา สวย ใส ปกป้องได้ถึงที่สุดและช่วยป้องกันสีผิวรถในระยะยาว ด้วยการรับประกันเป็นเวลา 7 ปี

Graphene

Nxtzen Graphene Serum ถูกขนานนามโดยนักวิทยาศาสตร์ว่าเป็น สุดยอด แห่งสสาร “Super material”

Graphene มีลักษณะโครงสร้างแบบรังผึ้ง ซึ่งแข็งแรงมากกว่าเหล็กถึง 100 เท่า ทั้งยังเบามากกว่าอลูมิเนียม แข็งมากกว่าเพชร ยืดหยุ่นมากกว่ายาง เมื่อเทียบกันหมัดต่อหมัดแล้ว Graphene คือ สสารที่แข็งแรงที่สุดในโลก

ด้วยเทคโนโลยีของกราฟีน Graphene และ Ceramic resin ผสมผสาน กับ SiC hybrid formula ที่เหมาะสม ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้ทนทานต่อสภาพแวดล้อม อันโหดร้ายต่างๆ ในขณะเดียวกันก็ให้ผลลัพธ์ในด้านความเงางาม ในแบบให้มิติฉ่ำวาว ได้อย่างเหนือความคาดหมายอีกด้วย

เสียงตอบรับจากลูกค้า

คำถามที่พบบ่อย

การเคลือบแก้ว (Glass Coating) คือการเคลือบพื้นผิวตัวถังรถยนต์ด้วยสาร Silica Dioxide ซึ่งเป็นองค์ประกอบเดียวกับที่ใช้ในการผลิตแก้ว เมื่อแห้งแล้วจะกลายเป็นชั้นฟิล์มใสที่แข็งแรงคล้ายแก้ว ช่วยเพิ่มความหนาและความเงางามให้กับผิวสีรถ

ชั้นเคลือบนี้มีระดับความแข็งตั้งแต่ 1H ถึง 9H (Hardness) ซึ่งหมายถึงประสิทธิภาพในการป้องกันรอยขีดข่วน รอยขนแมว คราบสกปรกต่าง ๆ รวมถึงรังสี UV ที่ทำร้ายสีรถได้ในชีวิตประจำวัน

ที่ Nissan SMT เราให้บริการเคลือบแก้วด้วยผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม เพื่อให้รถคุณดูใหม่ เงางาม และได้รับการปกป้องในทุกการเดินทาง

การเคลือบแก้ว (Glass Coating) ไม่ได้มีดีแค่ความเงา แต่ยังช่วยเสริมการปกป้องรถของคุณให้พร้อมใช้งานทุกวัน ด้วยคุณสมบัติเด่นเหล่านี้:

  • ป้องกันรอยขีดข่วนจากการใช้งาน
    ลดความเสี่ยงจากรอยขนแมว เศษหิน กระเด็น รวมถึงสิ่งไม่พึงประสงค์บนท้องถนน

  • เพิ่มความเงางามและลุคหรูหรา
    พื้นผิวรถดูเรียบเนียน ฉ่ำเงาเหมือนกระจก รักษารูปลักษณ์ให้ดูใหม่อยู่เสมอ

  • ทำความสะอาดง่าย
    ด้วยคุณสมบัติ Hydrophobic น้ำและสิ่งสกปรกจะไม่เกาะติดพื้นผิว ช่วยให้ล้างรถง่ายขึ้น

  • ลดการเกิดคราบฝังแน่น
    คราบน้ำ คราบฝุ่น หรือมูลนกจะไม่ซึมลึกลงไปในสีรถ ทำให้ดูแลรักษาได้ง่ายและเร็ว

  • ปกป้องสีรถจากแสงแดดและรังสี UV
    เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องจอดรถกลางแจ้งบ่อย ๆ ลดการซีดจางของสีรถในระยะยาว

  • ความทนทานสูง
    เคลือบแก้วคุณภาพดีสามารถปกป้องผิวรถได้นานถึง 2–3 ปี หรือมากกว่านั้น

ที่ Nissan SMT เราคัดสรรผลิตภัณฑ์เคลือบแก้วคุณภาพระดับโลก เพื่อให้คุณมั่นใจได้ในทุกสัมผัส ทั้งเรื่องความงามและการปกป้อง

แม้การเคลือบแก้วจะมีข้อดีหลายด้าน แต่ก็มีบางข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ:

  • ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
    เนื่องจากต้องใช้วัสดุคุณภาพสูงและกระบวนการที่ต้องอาศัยความชำนาญจากผู้เชี่ยวชาญ

  • ต้องอาศัยสถานที่และอุปกรณ์เฉพาะทาง
    การเคลือบแก้วที่ได้ผลลัพธ์ดี จำเป็นต้องทำในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมฝุ่นและแสง พร้อมใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม

  • อาจมีกลิ่นของสารเคมีระหว่างทำ
    หากทำในพื้นที่ไม่ถ่ายเท อาจทำให้รู้สึกเวียนหัวได้ จึงควรทำโดยผู้มีประสบการณ์ในสถานที่เหมาะสม

  • ไม่สามารถกันรอยหนักได้ 100%
    แม้จะช่วยลดรอยขีดข่วนเล็กน้อยได้ แต่หากมีแรงกระแทกหรือรอยลึก การเคลือบแก้วก็ไม่สามารถป้องกันได้ทั้งหมด

การเคลือบเซรามิก (Ceramic Coating) คือการเคลือบผิวสีรถด้วยน้ำยาที่มีส่วนผสมของเซรามิก ซึ่งจะสร้างชั้นฟิล์มบาง ๆ ที่มีความแข็งและใส ยึดเกาะกับสีรถอย่างถาวร

ชั้นเคลือบนี้มีคุณสมบัติในการปกป้องสีรถจากรอยขีดข่วน คราบน้ำ ฝุ่น สิ่งสกปรก แสงแดด และรังสี UV ที่อาจทำให้สีรถซีดจางหรือเสียหาย พร้อมทั้งช่วยเพิ่มความเงางามให้กับตัวรถ ให้ดูเหมือนใหม่อยู่เสมอ

โดยทั่วไป เคลือบเซรามิกจะมีอายุการใช้งานประมาณ 2 – 5 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของน้ำยาและการดูแลรักษาหลังการเคลือบ

การเคลือบเซรามิก (Ceramic Coating) มีคุณสมบัติที่ช่วยยืดอายุและรักษาความงามของรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข้อดีหลัก ๆ ได้แก่:

  • ปกป้องสีรถจากสิ่งสกปรกและรอยขีดข่วนเล็กน้อย
    เช่น รอยขนแมว รอยจากการใช้งานทั่วไป ช่วยลดโอกาสที่ผิวสีจะเสียหาย

  • เพิ่มความเงางามให้กับตัวรถ
    ให้ลุคฉ่ำวาว สะท้อนแสงสวยงาม ทำให้รถดูเหมือนใหม่อยู่เสมอ

  • ป้องกันรังสียูวีจากแสงแดด
    ลดปัญหาสีซีดจาง แตกลาย หรือหมองเมื่อจอดรถกลางแจ้งเป็นเวลานาน

  • ทำความสะอาดง่ายขึ้น
    น้ำและคราบสกปรกจะไม่เกาะแน่นบนพื้นผิวรถ เพียงฉีดน้ำก็หลุดออกง่าย ไม่ฝังลึก

  • ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการดูแลรถ
    ไม่ต้องล้างบ่อย และลดการใช้แรงขัดถูในขั้นตอนการทำความสะอาด

  • ทนทานยาวนาน
    อายุการใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ 2 – 5 ปี ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์และการดูแลหลังเคลือบ

แม้การเคลือบเซรามิกจะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ก็มีข้อควรพิจารณาเช่นกัน:

  • มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการเคลือบแบบทั่วไป
    เนื่องจากน้ำยาที่ใช้มีคุณภาพสูง และต้องอาศัยขั้นตอนที่พิถีพิถัน

  • ต้องใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญและอุปกรณ์เฉพาะทาง
    เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียน ทนทาน และปกป้องได้จริง

  • ใช้เวลานานในการเคลือบ
    ต้องผ่านหลายขั้นตอน อาจใช้เวลาเป็นวัน และควรทำในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

  • ป้องกันรอยขีดข่วนได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น
    ไม่สามารถป้องกันรอยลึกหรือแรงกระแทกได้เท่าฟิล์มกันรอยสำหรับรถยนต์

การเคลือบกราฟีน (Graphene Coating) คือเทคโนโลยีเคลือบผิวรถยนต์รูปแบบใหม่ ที่ใช้น้ำยาเคลือบผสม กราฟีน—หนึ่งในวัสดุที่บาง เบา และแข็งแรงที่สุดในโลก

เมื่อใช้ร่วมกับการเคลือบเซรามิก จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับชั้นเคลือบ ทำให้สามารถ:

  • ป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีขึ้น

  • ทนต่อความร้อนและแสง UV

  • กันน้ำและสิ่งสกปรกได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

  • เพิ่มความเงางาม และยืดอายุการปกป้องสีรถให้นานขึ้น

นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ทันสมัย สำหรับผู้ที่ต้องการการปกป้องในระดับสูง

การเคลือบกราฟีน (Graphene Coating) มาพร้อมคุณสมบัติที่โดดเด่นเหนือการเคลือบแบบทั่วไป ดังนี้:

  • กันรอยขีดข่วนได้ดีกว่าเดิม
    ด้วยความแข็งแรงของกราฟีน ช่วยป้องกันรอยขนแมวและรอยจากการใช้งานประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • ลดการเกาะของฝุ่นและน้ำ
    มีคุณสมบัติ Hydrophobic และ Anti-Static น้ำและฝุ่นไม่เกาะผิวรถ ล้างออกง่าย ไม่ฝังแน่น

  • ช่วยลดอุณหภูมิผิวรถ
    กราฟีนมีคุณสมบัติช่วยกระจายความร้อน ลดการสะสมความร้อนบนตัวรถในวันที่แดดจัด

  • เพิ่มความเงางามระยะยาว
    ผิวรถดูฉ่ำวาว เหมือนใหม่อยู่เสมอ แม้ผ่านการใช้งานต่อเนื่อง

  • ทนทาน ใช้งานได้นานหลายปี
    ไม่ต้องเคลือบบ่อย ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษารถ

  • ทำความสะอาดง่าย
    คราบสกปรกหลุดออกง่าย ไม่ต้องออกแรงขัดหรือล้างบ่อย

แม้กราฟีนจะเป็นนวัตกรรมเคลือบสีที่ล้ำสมัย แต่ก็มีข้อจำกัดที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ:

  • ราคาค่อนข้างสูง
    เนื่องจากเป็นวัสดุใหม่ที่มีต้นทุนการผลิตสูง จึงมีค่าใช้จ่ายมากกว่าการเคลือบทั่วไป

  • ต้องใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
    การติดตั้งต้องใช้เทคนิคและเครื่องมือเฉพาะ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพ

  • ซ่อมเฉพาะจุดได้ยาก
    หากชั้นเคลือบเสียหาย อาจต้องเคลือบใหม่ทั้งชิ้นส่วนหรือทั้งคัน ไม่สามารถแต้มเฉพาะจุดได้ง่าย

  • ยังมีตัวเลือกผลิตภัณฑ์และศูนย์บริการน้อย
    ด้วยความที่เทคโนโลยียังใหม่ ตลาดจึงมีผลิตภัณฑ์และผู้ให้บริการไม่หลากหลายนัก

ตารางราคาเคลือบ

Full Body Protection (ภายนอกแบบเต็มคัน)

ขนาดรถยนต์Optimum Gloss CoatOpti-Coat ProNxtzen Graphene Serum
S15,00027,00037,000
M15,00027,00037,000
L17,00029,00039,000
XL20,00031,00042,000
XXL25,00035,00047,000

 

การเคลือบผิวรถยนต์มีหลายระดับ ตั้งแต่เคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก ไปจนถึงเคลือบกราฟีน แต่ละแบบมีคุณสมบัติและอายุการใช้งานต่างกัน ลองดูเปรียบเทียบด้านล่างเพื่อเลือกสิ่งที่ใช่สำหรับคุณ:


เคลือบแก้ว

ยี่ห้อ: Optimum Gloss Coat
ประเภท: เคลือบแก้วผสมเซรามิก

คุณสมบัติเด่น:

  • เงางามสูงสุด

  • น้ำไม่เกาะ ลดคราบน้ำ

  • ป้องกันรอยขีดข่วนและสิ่งสกปรก

  • ลดไฟฟ้าสถิต ฝุ่นไม่เกาะ

  • ทำความสะอาดง่าย

อายุการใช้งาน: มากกว่า 3 ปี
เหมาะกับ: ผู้ที่ต้องการเริ่มต้นดูแลรถแบบจริงจัง เงางามชัดเจน ทำความสะอาดง่าย ราคาไม่แรงเกินไป


เคลือบเซรามิก

ยี่ห้อ: Opti-Coat Pro
ประเภท: SiC (Silicon Carbide)

คุณสมบัติเด่น:

  • เงางามคงที่ยาวนาน

  • น้ำไม่เกาะ ป้องกันคราบ

  • รอยขีดข่วนและมลภาวะต่าง ๆ ไม่ฝังแน่น

  • Self-Cleaning ดูแลตัวเองได้

  • Anti-Static ฝุ่นไม่เกาะ

อายุการใช้งาน: มากกว่า 7 ปี
เหมาะกับ: คนที่ต้องการการปกป้องระยะยาว ไม่อยากเคลือบบ่อย เน้นความทนทานสูง


เคลือบกราฟีน

ยี่ห้อ: Nxtzen Graphene Serum
ประเภท: เซรามิกเรซินผสมกราฟีน (SiC Hybrid)

คุณสมบัติเด่น:

  • Super Hydrophobic: น้ำไหลลื่นสุด ๆ

  • ทนกรด-ด่าง pH 2–14

  • เงางามมีมิติ ฉ่ำวาว

  • ป้องกันคราบฝุ่น คราบน้ำ มลภาวะ

  • ปกป้องยาวนานที่สุด

อายุการใช้งาน: ตลอดอายุการใช้งาน (Lifetime)
เหมาะกับ: เจ้าของรถที่ต้องการ “สุดยอดการปกป้อง” ด้วยเทคโนโลยีล่าสุด ไม่ต้องกลับมาเคลือบซ้ำอีก

โดยทั่วไป การเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก และเคลือบกราฟีน จะใช้เวลา ประมาณ 6 – 8 ชั่วโมง ต่อคัน
แต่ระยะเวลาที่แน่นอนอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยดังนี้:

ปัจจัยที่มีผลต่อระยะเวลาเคลือบ

  • ขนาดของรถ – รถใหญ่ เช่น SUV หรือรถตู้ จะใช้เวลามากกว่ารถขนาดเล็ก

  • สภาพพื้นผิวของรถ – หากรถมีคราบ ฝุ่น ยางมะตอย หรือริ้วรอยเยอะ อาจต้องเตรียมพื้นผิวนานขึ้น

  • ขั้นตอนในการเตรียมพื้นผิว – การล้าง ขัด ปรับผิว ก่อนเคลือบ ต้องใช้เวลาเพื่อให้ชั้นเคลือบเกาะได้ดี

  • จำนวนชั้นเคลือบ – บางกรณีมีการเคลือบหลายชั้น เพื่อเสริมประสิทธิภาพ ก็จะใช้เวลามากขึ้น

การเคลือบรถยนต์แต่ละประเภทมีรายละเอียดและปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาที่แตกต่างกัน โดยบริการของ THE NeXT จะพิจารณาค่าใช้จ่ายตามองค์ประกอบหลักดังนี้

ประเภทของการเคลือบ

ลูกค้าสามารถเลือกประเภทของการเคลือบได้ตามความต้องการ

  • เคลือบแก้ว ยี่ห้อ Optimum Gloss Coat

  • เคลือบเซรามิก ยี่ห้อ Opti-Coat Pro

  • เคลือบกราฟีน ยี่ห้อ Nxtzen Graphene Serum

ขนาดของรถยนต์

ราคาจะพิจารณาตามขนาดของรถแต่ละคัน

  • S (รถขนาดเล็ก)

  • M (รถซีดานทั่วไป)

  • L (SUV หรือรถแวน)

  • XL – XXL (รถตู้, รถใหญ่พิเศษ)

การเตรียมผิวและติดตั้ง

บริการเคลือบจะรวมขั้นตอนการล้าง ขัด และเตรียมผิวอย่างละเอียด โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ชั้นเคลือบติดแน่น ทนทาน และมีประสิทธิภาพสูงสุด

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

เพื่อความพึงพอใจและเหมาะสมกับการใช้งานของลูกค้าแต่ละคน
ลูกค้าสามารถสอบถามและปรึกษารายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงประเมินราคากับทีมงานของเราได้โดยตรง

การเคลือบรถแต่ละประเภทมีความแตกต่างกันในด้านวัสดุ คุณสมบัติ อายุการใช้งาน และราคา โดยสามารถสรุปความแตกต่างได้ดังนี้

วัสดุที่ใช้ในการเคลือบ

  • เคลือบแก้ว: ใช้ซิลิกา (Silica) เป็นสารหลักในการสร้างชั้นฟิล์มเคลือบบาง ๆ

  • เคลือบเซรามิก: ใช้สารประกอบเซรามิก เช่น ไทเทเนียม หรือซิลิคอนคาร์ไบด์ (SiC) เพิ่มความแข็งแรงและทนทาน

  • เคลือบกราฟีน: ใช้กราฟีน ซึ่งเป็นโครงสร้างคาร์บอนนาโน ที่มีความแข็งแรงสูงและเป็นนวัตกรรมล่าสุด

อายุการใช้งาน

  • เคลือบแก้ว: 1 – 3 ปี

  • เคลือบเซรามิก: 2 – 5 ปี

  • เคลือบกราฟีน: 3 – 7 ปี หรือมากกว่านั้นในบางกรณี

คุณสมบัติการปกป้อง

  • เคลือบแก้ว: ให้ความเงางามดี ป้องกันน้ำ รอยขีดข่วน และสิ่งสกปรกได้ในระดับพื้นฐาน

  • เคลือบเซรามิก: ให้ความเงางามสูง ทนต่อรอยขีดข่วน รังสียูวี และมลภาวะได้ดีกว่า

  • เคลือบกราฟีน: เพิ่มการกระจายความร้อน ลดการเกาะฝุ่น ทนสารเคมี และให้ความเงางามพร้อมความลื่นสูงสุด

ราคาค่าใช้จ่าย

  • เคลือบแก้ว: เป็นตัวเลือกที่ราคาย่อมเยาที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลรถแบบเบื้องต้น

  • เคลือบเซรามิก: ราคาปานกลาง คุ้มค่ากับอายุการใช้งานที่ยาวนาน

  • เคลือบกราฟีน: ราคาสูงที่สุด เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นหลากหลาย

ขั้นตอนเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก เคลือบกราฟีน

เพื่อให้การเคลือบผิวรถยนต์มีประสิทธิภาพสูงสุด ขั้นตอนการติดตั้งของเราดำเนินการอย่างละเอียด ด้วยเทคนิคและผลิตภัณฑ์เฉพาะทาง ดังนี้

1. ทำความสะอาดพื้นผิวและเตรียมรถ

ล้างรถด้วยน้ำยาพิเศษ เช่น Power Clean เพื่อขจัดคราบน้ำมัน แว็กซ์เก่า คราบแมลง และสิ่งสกปรกอื่น ๆ
หลังจากนั้น ใช้ดินน้ำมันเกรดพรีเมียมลบคราบฝังลึก และใช้น้ำยาขจัดคราบเฉพาะเพื่อลบคราบยางมะตอยหรือคราบเหนียว

2. ขัดปรับสภาพพื้นผิว

ขัดลบรอยขีดข่วน รอยขนแมว และความไม่เรียบของแลคเกอร์ โดยใช้เครื่องมือขัดและน้ำยาขัดเกรดสูง เพื่อเตรียมพื้นผิวให้เรียบเนียน พร้อมสำหรับการเคลือบ

3. ล้างทำความสะอาดอีกครั้ง

ล้างฝุ่นและคราบจากกระบวนการขัดอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าพื้นผิวรถสะอาดหมดจดก่อนการเคลือบ

4. เช็ดพื้นผิวด้วย Optimum Paint Prep

ใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะในการเช็ดพื้นผิว เพื่อล้างคราบไขมันและสารตกค้าง ทำให้การยึดเกาะของน้ำยาเคลือบแน่นขึ้น และคงคุณสมบัติได้เต็มที่

5. ลงน้ำยาเคลือบ

ใช้น้ำยาเคลือบที่เลือก (เคลือบแก้ว, เคลือบเซรามิก หรือเคลือบกราฟีน) ลงบนพื้นผิวรถด้วยฟองน้ำเฉพาะ แล้วใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์คุณภาพสูงเก็บรายละเอียดให้เรียบเนียน

6. อบอินฟราเรดเพื่อเซ็ตตัว

อบด้วยแสงอินฟราเรดเพื่อช่วยให้น้ำยาเคลือบเซ็ตตัวอย่างสมบูรณ์ เพิ่มความทนทานและพร้อมใช้งานทันที แม้ในสภาพอากาศชื้นหรือฝนตก

เคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก เคลือบกราฟีนแล้วดูแลยังไง

หลังจากเคลือบรถแล้ว การดูแลรักษาไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก เพียงแค่ทำตามคำแนะนำเหล่านี้ ก็ช่วยให้รถเงางามและปกป้องพื้นผิวได้ยาวนาน

กรณีมีฝุ่นน้อย

หากรถมีแค่ฝุ่นบางเบา สามารถใช้น้ำฉีดล้างเบา ๆ ได้เลย เพราะชั้นเคลือบช่วยลดการเกาะของฝุ่น ทำให้ฝุ่นหลุดออกง่าย หรือจะใช้ผ้าเปียกลูบเบา ๆ ก็ช่วยเพิ่มความเงางามให้พื้นผิว

กรณีมีสิ่งสกปรกมาก

หากมีคราบโคลน ขี้นก หรือยางมะตอยติดรถ แค่ใช้น้ำราดแล้วตามด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดเบา ๆ ก็เพียงพอ ไม่ต้องออกแรงขัด เพราะชั้นเคลือบช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกฝังแน่นอยู่แล้ว

หลีกเลี่ยงการขัดสีรถ

หลีกเลี่ยงการขัดสีด้วยเครื่องขัดหรือออกแรงขัดแรง ๆ เพราะอาจทำให้ชั้นเคลือบเสียหายหรือบางลง รถที่ผ่านการเคลือบมาแล้วมีความเงาอยู่ในตัว ไม่จำเป็นต้องขัดเพิ่ม

ล้างรถตามปกติ

เพียงล้างรถด้วยน้ำสะอาด และเช็ดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์เบา ๆ โดยไม่ต้องใช้น้ำยาที่มีสารเคมีแรง ก็สามารถดูแลชั้นเคลือบให้คงประสิทธิภาพได้ในชีวิตประจำวัน

รับบริการบำรุงรักษาที่ศูนย์บริการ

ควรนำนำรถเข้าศูนย์บริการตามรอบ เพื่อเช็กสภาพชั้นเคลือบ และเติมน้ำยาเคลือบใหม่เป็นระยะ จะช่วยคงประสิทธิภาพการปกป้องและความเงางามได้ยาวนานยิ่งขึ้น

เลือกใช้บริการจากศูนย์ที่มาตรฐาน

แนะนำให้เลือกศูนย์บริการที่เชี่ยวชาญและมีมาตรฐาน เพื่อให้มั่นใจว่าการดูแลรถหลังเคลือบจะได้คุณภาพ และยืดอายุการปกป้องของฟิล์มเคลือบอย่างแท้จริง

หลังการเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก หรือเคลือบกราฟีนกับทางร้าน คุณไม่ต้องกังวลเรื่องฝนหรือน้ำ เพราะรถสามารถโดนน้ำได้ทันทีหลังการติดตั้ง

เราใช้ระบบ อบอินฟราเรด เพื่อให้น้ำยาเซ็ตตัวอย่างสมบูรณ์ทันทีหลังลงน้ำยาเสร็จ ทำให้ชั้นเคลือบพร้อมปกป้องรถของคุณตั้งแต่แรก ไม่ต้องรอเวลาแห้ง หรือเลี่ยงน้ำฝนในวันถัดไป

มั่นใจได้ว่าไม่ว่าจะฝนตกหรือเจอความชื้น รถของคุณก็ยังเงางามและได้รับการปกป้องเต็มประสิทธิภาพตั้งแต่วันแรกที่ออกจากศูนย์บริการ

หลังจากเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก หรือเคลือบกราฟีนกับทางร้าน ลูกค้าสามารถ ล้างรถได้ตามปกติ ไม่ว่าจะล้างเองที่บ้านหรือนำเข้าคาร์แคร์ อย่างไรก็ตาม เพื่อรักษาคุณภาพของชั้นเคลือบให้คงอยู่ได้นานที่สุด แนะนำให้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมดังต่อไปนี้:

  • อย่าขัดผิวรถอย่างรุนแรง: หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องขัด หรือการขัดถูที่ออกแรงมาก เพราะอาจทำให้ชั้นเคลือบบางลงหรือหลุดลอก

  • หลีกเลี่ยงน้ำยาที่ไม่เหมาะสม: ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือสั่งซื้อน้ำยาผ่านอินเทอร์เน็ตโดยไม่ได้ตรวจสอบส่วนผสมอย่างรอบคอบ เพราะอาจมีสารเคมีที่ทำร้ายชั้นเคลือบและแลกเกอร์ของรถได้

ทางร้านของเรา ยินดีให้คำแนะนำผลิตภัณฑ์ดูแลรถ ที่เหมาะสมกับประเภทของการเคลือบที่คุณเลือก เพื่อให้คุณสามารถดูแลรถได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย และรักษาความเงางามของรถไว้ได้นานที่สุด

การเคลือบแก้วและการเคลือบสีแตกต่างกันในเรื่องของความทนทานและการปกป้องพื้นผิวรถ

  • การเคลือบสี คือการใช้แว็กซ์เพื่อเคลือบผิวรถ ทำให้รถดูเงางามเหมือนใหม่ แต่มีอายุการใช้งานสั้น เพียงประมาณ 1 เดือน ต้องทำซ้ำบ่อยครั้ง

  • การเคลือบแก้ว เป็นการสร้างชั้นฟิล์มแข็งจากสารซิลิกา (Silica) ที่ช่วยปกป้องรถได้ยาวนานกว่า อยู่ได้ตั้งแต่ 1 ถึง 5 ปี ช่วยลดรอยขีดข่วน ป้องกันน้ำเกาะ และสิ่งสกปรกได้ดีกว่า

แม้การเคลือบแก้วจะมีราคาสูงกว่า แต่คุ้มค่าในระยะยาว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลรถให้เงางามและลดความยุ่งยากในการทำความสะอาดบ่อย ๆ

ต้องการเคลือบสีรถ ติดต่อเลย

ดูแลรถคุณด้วยนวัตกรรมเคลือบสีระดับมืออาชีพ ติดต่อรับบริการครบวงจรวันนี้

Authorized Installer

เราได้รับการรับรองเป็น Authorized Installer อย่างเป็นทางการจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกอย่าง Opti-Coat และ NXTZEN มั่นใจในคุณภาพ เคลือบจริง ปกป้องจริง ได้มาตรฐานระดับสากล

Authorized Installer by Opti-Coat

Authorized Installer by NXTZEN